แอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นเป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้มีความจำเป็นสำหรับการใช้งานในแต่ละบ้านอย่างยิ่งเนื่องจากว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าอากาศนั้นเริ่มร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสามารถที่จะไต่ไปแตะถึงระดับ 45 องศาเซลเซียสซึ่งถือว่าร้อนมากๆโดยอากาศที่ร้อนนั้นอาจจะทำให้คุณมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรืออาการ heat Stroke ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุหรือเด็กที่มักจะ sensitive กับอุณหภูมิค่อนข้างมากนั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้วการติดตั้งแอร์หรือใช้งานแอร์นะจึงเป็นทางเลือกที่จำเป็นสำหรับบ้านหรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องปรับอากาศหรือแอร์นัดกินไฟค่อนข้างมากการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่ไม่ดีนะจะทำให้คุณจำเป็นจะต้องจ่ายค่าพลังงานสำหรับใช้งานเครื่องปรับอากาศมากขึ้นกว่าปกตินั่นเองเพราะฉะนั้นแล้วในการที่จะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศหรือแอร์มาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟตั้งแต่ตอนแรกที่คิดจะติดตั้งซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้เงินเครื่องปรับอากาศได้อย่างประหยัดและเต็มประสิทธิภาพ
โดยเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดกระแสไฟฟ้านั้นคุณสามารถที่จะตรวจสอบได้โดยการดูที่ฉลากประหยัดไฟซึ่งควรที่จะใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ขึ้นไปซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองประสิทธิภาพในการใช้พลังงานจาก กระทรวงพลังงานซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่จะออกเอกสารให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ได้รับมาตรฐานในการใช้พลังงานจากระดับ 1 ถึง 5 ซึ่งระดับที่ 5 นั้นเป็นระดับที่มีการบริโภคพลังงานที่น้อยที่สุดและมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการใช้กระแสไฟฟ้านั่นเอง
และนอกจากฉลากประหยัดไฟแล้วปัจจุบันนี้มีเครื่องปรับอากาศที่มีใช้งานอยู่ 2 ประเภทได้แก่เครื่องปรับอากาศธรรมดาและเครื่องปรับอากาศแบบที่เป็นเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเครื่องปรับอากาศทั้งสองประเภทนั้นก็จะมีข้อแตกต่างกันอยู่หลายประการซึ่งคุณสามารถที่จะอ่านรายละเอียดความแตกต่างของแอร์ Inverter และแอร์ธรรมดาได้ที่บทความนี้ แอร์อินเวอร์เตอร์ กับ แอร์ธรรมดา ต่างกันอย่างไร? แต่หลักๆแล้วอินเวอร์เตอร์นั้นจะมีอัตราการประหยัดพลังงานที่มากกว่าแอร์ธรรมดาสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์และ Inverter นั้นยังมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่ดีแอร์กว่าธรรมดา เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคุณต้องการที่จะเลือกซื้อแอร์ที่ประหยัดไฟนะเราแนะนำให้คุณเลือกซื้อแอร์แบบ Inverter จะมีความเหมาะสมมากกว่านั่นเอง
และนอกจากนั้นแล้วในปัจจุบันนี้ยังมีเครื่องปรับอากาศวางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นสงสัยว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศรุ่นไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างประหยัดไฟมากที่สุดและสามารถที่จะสร้างความเย็นภายในบ้านของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาแอร์ประหยัดพลังงานมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
แอร์ประหยัดไฟ ยี่ห้อไหนดี?
ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตที่เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในท้องตลาดว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยี่ห้ออินเตอร์แบรนด์นั้นจะใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่มีการวิจัยและพัฒนาให้มีอัตราการบริโภคพลังงานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นซึ่งจะทำให้คุณนั้นมีอัตราการประหยัดพลังงานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยตนเองโดยเครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงาน ที่เราแนะนำนั้นได้แก่เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Haier, TCL, Carrier, Daikin, Midea, Hisense, Central Air, SAIJO DENKI, Samsung, Sharp, LG, Panasonic, Electrolux, และ York
แนะนำ แอร์ประหยัดไฟ ยี่ห้อไหนดี
#1.แอร์ประหยัดไฟ MITSUBISHI HEAVY DUTY รุ่น SRK18YW-W1
เป็นเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับ Economy Mode โหมดประหยัดพลังงาน มีเทคโนโลยี Jet Flow เทคโนโลยีการกระจายอากาศ เย็นเร็วด้วยระบบกระจายลมที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับใบพัดในเครื่องยนต์เจ็ท ทำให้สามารถส่งลมไกลได้ถึง ส่งลมไกลที่สุด 14 เมตร
High Power Operation สามารถทำงานอย่างต่อเนื่อง ในโหมดพลังงานสูงเป็นเวลา 15 นาที ช่วยให้ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการอย่างรวดเร็ว พร้อมระบบ Anti-Microbial Blower Fan ใบพัดเคลือบสารต่อต้านเชื้อราและเชื้อโรค ทำให้อากาศสะอาดและไม่มีกลิ่น
24 Hour ION ทำให้อากาศสดชื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติด้วยการปล่อยประจุลบตลอด 24 ชั่วโมง จากสารทัวมาลีนซึ่งเคลือบไว้ใต้ช่องจ่ายลม สุดยอดเทคโนโลยี Self-Cleaning Operation ฟังก์ชั่นที่ทำให้คอยล์เย็นแห้ง เพื่อยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา โดยพัดลมจะทำงานในรอบต่ำ เพื่อเป่าลมไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากปิดเครื่อง
Self-Diagnostic Function ระบบค้นหาข้อบกพร่องอัตโนมัติ และ Detachable Indoor Air Inlet Panel ฝาครอบหน้าที่สามารถถอดออกได้ ทำให้ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศได้อย่างง่ายดาย
Back-Up Switch สวิทซ์สำรองบนตัวเครื่องปรับอากาศที่สามารถเปิดหรือปิดได้กรณีที่รีโมทมีปัญหา นอกจากนั้นยังมีระบบ Comfort Start-Up การตั้งเวลาเปิด (On Timer) เครื่องปรับอากาศจะตรวจสอบอุณหภูมิล่วงหน้าเป็นเวลา 60 นาที และจะเริ่มทำงานเพื่อให้ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการเมื่อถึงเวลาเปิดตามที่ตั้งค่าไว้
DC PAM Inverter แผงวงจรอัจฉริยะ PAM ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพลสเซอร์ และมอเตอร์โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน

จุดเด่นของเครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน
1.Jet Flow เทคโนโลยีการกระจายอากาศ เย็นเร็วด้วยระบบกระจายลมที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับใบพัดในเครื่องยนต์เจ็ท
2.ใบพัดเคลือบสารต่อต้านเชื้อราและเชื้อโรค ทำให้อากาศสะอาดและไม่มีกลิ่น
3.Self-Cleaning Operation ฟังก์ชั่นที่ทำให้คอยล์เย็นแห้ง
#2.แอร์ประหยัดไฟ Samsung รุ่น AR10TYHZCWKNST
เครื่องปรับอากาศติดผนัง S-Inverter รุ่น AR10TYHZCWKNST เพลิดเพลินไปกับชีวิตที่อัจฉริยะกว่าเดิม การทำความเย็นอัตโนมัติด้วย AI สัมผัสวิธีการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดด้วยการทำความเย็นอัตโนมัติด้วย AI* ที่สามารถปรับโหมดต่าง ๆ ให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติด้วยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของห้องและรูปแบบการใช้งาน**
ด้วยการยึดตามอุณหภูมิที่คุณต้องการ ระบบจะเปลี่ยนไปใช้โหมดที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีที่สุด ลดเสียงรบกวนและลดการใช้พลังงานลง 73%* Digital Inverter Boost ประหยัดเงินในแต่ละวันได้ด้วยเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่ประหยัดพลังงานสูง ซึ่งสามารถคงอุณหภูมิที่ต้องการไว้ได้ด้วยความผันผวนที่น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมกับแม่เหล็กนีโอดิเมียม และ Twin Tube Muffler ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงียบเชียบ และทนนานยิ่งกว่าเดิม พร้อมยังช่วยลดการใช้พลังงานลงได้มากถึง 73%*
ออกแบบมาเพื่อให้ความเย็นได้เร็วขึ้น เป็นบริเวณกว้างขึ้น และไกลขึ้นกว่าเดิม เย็นเร็ว ทำความเย็นทุกซอกทุกมุมได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คุณรู้สึกสบายได้อยู่เสมอ เทคโนโลยี Digital Inverter Boost สามาร ทำความเย็นได้เร็วขึ้น 43%* ยิ่งไปกว่านั้น ดีไซน์ที่ล้ำหน้ายังช่วยเพิ่มขนาดใบพัดให้ใหญ่ขึ้น 15%, ช่องลมเข้าที่กว้างขึ้น 18% และใบปรับทิศทางลมที่กว้างขึ้น 31% จึงทำให้อากาศเย็นกระจายไปได้ไกลและกว้างกว่าเดิม** ได้มากถึง 15 เมตร ควบคุมได้จากทุกที่ ทุกเวลา.

จุดเด่นของเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟรุ่น
1.สามารถทำความเย็นได้เร็วขึ้น 43%*
2. ประหยัดไฟกับเงิน พร้อมเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่ออากาศภายนอกนั้นไม่ร้อนจนเกินไป
#3.แอร์ประหยัดไฟ Daikin รุ่น FTKQ12UV2S
คุณสมบัติ ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ทุกรุ่นด้วยค่า SEER ตั้งแต่ 16.96 ขึ้นไปให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าในทุกการใช้งาน สารทำความเย็น R32 R32 เป็นสารทำความเย็นรักษ์โลกที่ใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยไดกิ้น มีความสามารถในการทำความเย็นมากกว่าสารทำความเย็น R22 และ R410A ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานหนัก ส่งผลให้เย็นเร็วและประหยัดพลังงาน
ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และมีค่าศักยภาพที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) น้อยกว่า R410A ถึง 3 เท่า ในประเทศญี่ปุ่นมียอดจำหน่ายสะสมเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนติดผนังที่ใช้ R32 แล้วกว่าหนึ่งล้านเครื่อง อินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์แบบสวิง คอมเพรสเซอร์แบบสวิงของไดกิ้นพิเศษกว่าระบบอินเวอร์เตอร์ทั่วไป โดยแกนและโรลเลอร์ในการหมุนนั้นเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยลดแรงเสียดทานและการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างมาก
ลดการรั่วไหลของสารทำความเย็นในขณะที่ทำการบีบอัด ทำให้การทำงานเงียบลงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อเริ่มการทำงานระบบจะเร่งรอบของคอมเพรสเซอร์ทำให้เย็นเร็ว และเมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ระบบจะลดรอบของคอมเพรสเซอร์ลง ทำให้อุณหภูมิคงที่

จุดเด่นของเครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงานรุ่นนี้
1.ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
2.ลดการรั่วไหลของสารทำความเย็นในขณะที่ทำการบีบอัด ทำให้การทำงานเงียบลงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. ใช้งาน สารทำความเย็น R32 R32 เป็นสารทำความเย็นรักษ์โลก
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาใช้งาน
1.ขนาดของเครื่องปรับอากาศ
ขนาดของเครื่องปรับอากาศที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้องที่คุณจะนำมาใช้งานโดยตัวขนาดความจุของเครื่องปรับอากาศนั้นจะมีหน่วยเป็น BTU ซึ่งแอร์ขนาดต่างจากนั้นจะต้องมีขนาดของค่า btu ที่เหมาะสมกับขนาดของห้องที่จะนำมาติดตั้งและใช้งานการใช้งานแอร์ที่มี btu น้อยกว่าหรือมากกว่าอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพซึ่งการคำนวณ BTU ของแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดของห้องน้ำสามารถที่จะทวนได้ง่ายๆโดยการใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ดังนี้
การคำนวนบีทียู ที่เหมาะสมกับห้องขนาดต่างๆ
ความกว้าง X ความยาวX 800= ขนาดบีทียูของแอร์บ้าน (ห้องธรรมดา)
ความกว้าง X ความยาวX 1000= ขนาดบีทียูของแอร์บ้าน (ห้องโดนแดดตลอดหรือแดดบ่าย)คูณได้เท่าไหร่ให้ปัดขึ้นตามขนาดบีทียูของแอร์บ้าน
เช่นห้องขนาด 4X4X800=12800 ก็ให้ปัดเป็น13000ก็จะได้แอร์บ้านที่13000บีทียู
หรือสามารถเปรียบเทียบพื้นที่ และค่า BTU ได้ จากตารางด้านล่าง
ขนาด BTU ที่เหมาะสม | พื้นที่ห้องปกติ (ตารางเมตร) | พื้นที่ห้องโดนแดด (ตารางเมตร) |
9000 | 12 ถึง 15 | 11 ถึง 14 |
12000 | 16 ถึง 20 | 14 ถึง 18 |
18000 | 24 ถึง 30 | 21 ถึง 27 |
21000 | 28 ถึง 35 | 25 ถึง 32 |
24000 | 32 ถึง 40 | 28 ถึง 36 |
25000 | 35 ถึง 44 | 30 ถึง 39 |
30000 | 40 ถึง 45 | 35 ถึง 45 |
48000 | 48 ถึง 60 | 42 ถึง 54 |
80000 | 80 ถึง 100 | 70 ถึง 90 |
2.ฉลากประหยัดไฟ
บทความนี้พูดถึงเกี่ยวกับการเลือกซื้อแอร์ที่มีอัตราการบริโภคพลังงานที่น้อยหรือแอร์ที่มีประสิทธิภาพและประหยัดไฟตนเองโดยสิ่งแรกที่จะเป็นเครื่องรับประกันว่าตัวเครื่องปรับอากาศเครื่องนั้นๆหรือรุ่นนั้นๆจะสามารถที่จะใช้งานได้อย่างประหยัดไฟนั่นก็คือฉลากประหยัดไฟซึ่งตัวเครื่องปรับอากาศที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นเครื่องปรับอากาศที่รองรับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างประหยัดไฟและเต็มประสิทธิภาพช่วยให้คุณสามารถที่จะใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ควรเลือก เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟต่ำกว่าเบอร์ 5 เด็ดขาด
3.เทคโนโลยีในการทำความเย็น
ในปัจจุบันนี้มีเครื่องปรับอากาศที่ใช้เทคโนโลยีในการทำความเย็นอยู่ 2 ประเภทได้แก่เทคนิคการทำความเย็นแบบธรรมดาและระบบแอร์แบบ Inverter ซึ่งเครื่องปรับอากาศที่ใช้ระบบทำความเย็นแบบอินเวอร์เตอร์นั้นจะมีอัตราการบริโภคพลังงานที่น้อยกว่าแอร์ที่ใช้ระบบทำความเย็นแบบธรรมดาได้สูงสุดเกือบ 50% ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อขอเครื่องปรับอากาศเพราะฉะนั้นแล้วสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะใช้งานเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงานนั้นเราแนะนำให้คุณเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศแบบมีมอเตอร์ซึ่งจะมีอัตราการบริโภคพลังงานที่น้อยกว่าเพื่อปรับอากาศธรรมดาที่ไม่ใช่ระบบ Inverter ซึ่งจะทำให้คุณนัทสามารถที่จะใช้งานได้ดีที่สุด
4.มีระดับราคาที่เหมาะสม
ในการที่จะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีระดับราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพประสิทธิภาพรวมถึงงบประมาณที่คุณได้ตั้งเอาไว้เป็นหลักในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีราคาถูกหรือแพงมากจนเกินไปเนื่องจากว่าอาจจะทำให้คุณนั้นไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานนั่นเอง
5.การรับประกันและการบริการหลังการขาย
เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาขณะที่ใช้งานนั้นคุณสามารถที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้ขายหรือผู้ผลิตได้ในกรณีที่ปัญหานั้นเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดเพลงซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของตัวเครื่องมากกว่าเครื่องปรับอากาศที่ไม่มีการรับประกันใดๆและไม่ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ไม่มีการรับประกันเด็ดขาดซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย
6.เครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก.
เครื่องปรับอากาศ คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มี คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่ มอก. 1529-25XX โดยกำหนดเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อให้มาตรฐานมีความทันสมัยเหมาะสมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ IEC 60335-2-40 : 2013 ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยขอบข่ายของมาตรฐานฉบับใหม่ครอบคลุมเครื่องปรับอากาศ แบบเคลื่อนที่ แบบตั้งพื้น แบบหน้าต่าง แบบติดผนัง และแบบติดตั้งเพดาน