เครื่องฟอกอากาศ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี

เครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอากาศในบ้านของคุณให้สะอาด ปราศจากฝุ่นควันหรือละออต่างๆที่จะทำให้คุณนั้นเกิดอาการแพ้และไม่สบายได้โดยเจ้าเครื่องฟอกอากาศนั้นจะถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในการฟอกอากาศให้สะอาดสามารถที่ทำการกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กสูงสุดถึง PM 2.5 ซึ่งเป็นส่วนที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ได้

เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร?

เครื่องฟอกอากาศนั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในการทำอากาศให้สะอาดโดยมีหลักการทำงานง่ายๆคือการดึงเอาอากาศเข้าไปเป่าผ่านกรองอากาศขนาดเล็กโดยการใช้พัดลมร่วมกับไส้กรองขนาดเล็กที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กที่เรามองไม่เห็นได้ซึ่งฝุ่นเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราไม่ว่าจะเป็นต้นเหตุปัญหาอาการภูมิแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาการหอบหืดนั้นจะมีความอ่อนไหวต่อคุณและความเป็นพิเศษเพราะฉะนั้นแล้วจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องฟอกอากาศไว้ภายในบ้าน

เครื่องฟอกอากาศจำเป็นอย่างไร?

โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าอากาศที่อยู่รอบๆตัวของเรานั้นไม่ได้บริสุทธิ์เสมอไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งหรือที่มีอุ่นและปัญหาต่างๆที่เกิดจากกิจกรรมในการเผาไหม้ไม่ว่าจะเป็นเศษวัสดุหรือเครื่องยนต์ก็ตามจะทำให้เรานั้นเกิดปัญหาสุขภาพในภายหลังซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าฝุ่นควันขนาดเล็กที่มีขนาดเล็กกว่า PM 2.5 นัดส่งผลกระทบกับสุขภาพของเราจริงเพราะฉะนั้นแล้วบ้านเป็นพื้นที่ที่เราอยู่อาศัยจึงควรที่จะเป็นพื้นที่ที่ปลอดจากฝุ่นและควันหรือสิ่งต่างๆที่จะทำให้สุขภาพของเรานั้นแย่ลง

และสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศเพื่อที่จะนำมาใช้งานนั้นอาจจะเริ่มสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนแบบไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาเครื่องฟอกอากาศมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

แนะนํา เครื่องฟอกอากาศ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี

#1. เครื่องฟอกอากาศ Philips Airpurifier AC0820/20

เครื่องฟอกอากาศ Philips Airpurifier AC0820/20 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มี ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุภาคขนาดนาโนที่เล็กกว่า 0.003 ไมครอน (เล็กกว่าขนาด PM2.5 ถึง 800 เท่า)ได้ถึง 99.5% ระบบอัจฉริยะกรองอากาศอัตโนมัติ จะทำการตรวจวัดคุณภาพ และทำงานทันทีเมื่อพบความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในอากาศ แสดงคุณภาพอากาศด้วย 4 ระดับสีแบบเรียลไทม์ ขนาดกะทัดรัด ลงตัวกับทุกพื้นที่ภายในบ้านอย่างง่ายดาย เหมาะกับพื้นที่ห้อง 16-49 ตร.ม. กรองอากาศด้วยระบบหมุนวนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ ใช้เวลาฟอกอากาศในพื้นที่ 20 ตารางเมตรน้อยกว่า 16 นาที โหมด Sleep ไฟแสดงสถานะจะลดความสว่างลง และการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างเงียบพิเศษ เสียงในระหว่างทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A) ซึ่งไม่รบกวนการใช้ชีวิตภายในบ้านและช่วยให้คุณสามารถที่จะนำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ไปที่ร้านค้า

#2. เครื่องกรองอากาศ Smarthome รุ่น AP-180

หมดกังวลกับฝุ่นล่ะออง PM 2.5 /แบคทีเรีย /ไรฝุ่น/ก๊าซที่ปล่อยจากอุตสาหกรรม/ สารฟอร์มาดีไฮด์/ ละอองเกสรและสารก่อภูมิแพ้ /กลิ่นควันจากการประกอบอาหาร/ ควันจากบุรี่ ที่อยู่ภายในบ้านของคุณกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์เหล่านี้ด้วยเครื่องกรองอากาศรุ่นใหม่ Smarthome รุ่น AP-180ทำให้อากาศให้สะอาดบริสุทธิแผ่นกรองอากาศคุณภาพ HEPA คุณภาพสูงพร้อมActivated carbon ให้ประสิทธิภาพสูงในการกรองถึง 99.97% รับประกัน 3 ปีมอเตอร์ทองแดงแท้รับประกัน 3 ปีเต็มปรับแรงลมได้ 3 ระดับสั่งงานด้วยรีโมทคอนโทรลระบบหน้าจอสัมผัสหน้าจอแสดงผลการทำงานอัตโนมัติสามารถตั้งเวลาได้ 1-12 ชั่วโมง

มีโหมดการ sleep เพื่อป้องกันเสียงและแสงรบกวนการนอนหลับสามารถเลือกการทำงานได้ 3 โหมด Auto-sleep-Manual สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับหน้าจอแสดงสถานะค่าอากาศแสดงระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM2.5) แบบเรียลไทม์ อนุภาคการดักจับฝุ่น 220 m3/h มีไฟแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองไส้กรองสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 3,000 ชม.วิธีการเปลี่ยนไส้กรองง่ายดายไม่ยุ่งยากซับซ้อนสามารถซื้อไส้กรองมาเปลี่ยนเองได้เมื่อไส้กรองหมดอายุการใช้งาน.

ไปที่ร้านค้า

#3. Xiaomi Mi Air Purifier 4

Mi Air Purifier 4 (PM 2.5) ที่เปลี่ยนหน้าจอแสดงผลเป็น OLED ระบบสัมผัส ที่คอยบอกโหมดการทำงาน, ค่าอากาศ, ความชื้น, อุณหภูมิของห้องนั้นๆ แบบ Real-Time เหมาะสำหรับห้องขนาด 28-48 ตารางเมตร สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟนได้.

ระบบกรองแบบทรีอินวัน กำจัดอนุภาคขนาด 0.3μm ได้ถึง 99.97% ครอบคลุมพื้นที่ 28-48 ตรม ฟอกอากาศในห้อง 20 ตร.ม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที โหมดกลางคืนเสียงรบกวนต่ำที่ 32.1dB สามารถส่งมอบอากาศบริสุทธิ์ได้ถึง 6660 ลิตรต่อนาที พร้อมท่ออากาศขาเข้ารอบทิศทาง 360 องศา อัพเกรดจอแสดงผล OLED แสดงผลอย่างชัดเจน และใช้งานง่ายขึ้น

การตรวจจับแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ตอบสนองได้ทันท มีแถบบอกสถานะอากาศ ปุ่ม เปิด-ปิด แบบสัมผัส
ลิงก์กับแอป Mi Home/Xiaomi Home และเปลี่ยนไส้กรองของคุณเมื่อมีการแนะนำ ไส้กรองหนึ่งชิ้นอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน.

ไปที่ร้านค้า

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งาน

1.ขนาดของเครื่องฟอกอากาศ

สำหรับการที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณโดยพิจารณาจากพื้นที่ของบ้านหรือห้องที่คุณต้องการที่จะนำเอาเครื่องฟอกอากาศนั้นๆมาใช้งาน โดยจะมีการวัดพื้นที่เป็นหน่วยตารางเมตรซึ่งควรที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเครื่องอากาศแต่ละรุ่นนั้นจะมีการระบุปริมาณของพื้นที่ของห้องที่รองรับการทำงานระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้งานหรือ สเปคของเครื่องฟอกอากาศซึ่งควรที่จะพิจารณาให้ดีก่อนที่จะทำการเลือกซื้อเพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถที่นำการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณ การใช้งานเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่จนเกินไปนั้นอาจจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างเพียงพอหรือเต็มประสิทธิภาพ

2. ประสิทธิภาพในการกรองอากาศ

ประสิทธิภาพในการกรองอากาศหลักๆของเครื่องฟอกอากาศนั้นจะอยู่ที่ตัวไส้กรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศซึ่งจะมีไส้กรองอากาศให้เลือกมากมายหลายแบบตั้งแต่ไส้กรองกรองฝุ่นธรรมดากรองฝุ่น PM 2.5 จนกระทั่งถึงไส้กรองแบบ HEPA ซึ่งไส้กรองแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้นก็จะมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณโดยไส้กรองที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดนั้นจะเป็นไส้กรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กในระดับ 0.3 ไมครอนและมีประสิทธิภาพในการกรองได้สูงสุดถึง 90 93 เปอร์เซ็นต์สามารถที่จะจัดการกับไอระเหยของสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้ ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

3. การใช้งานต่างๆของตัวเครื่อง

ตัวเครื่องฟอกอากาศที่คุณจะนำมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการใช้งานที่ง่ายดายและมีฟีเจอร์ต่างๆที่จะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการตั้งค่าการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการวัดปริมาณฝุ่นในอากาศหรือวัดคุณภาพอากาศการตั้งเวลาในการทำงานไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาเปิดหรือปิดหรือการแจ้งเตือนในกรณีที่จะต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศรวมถึงการดูแลรักษาและการบำรุงรักษาต่างๆมักจะต้องสามารถที่จะทำได้ง่ายซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะนำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. มีเรื่องราคาที่เหมาะสม

เครื่องฟอกอากาศที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์ไม่ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีราคาถูกหรือแพงมากจนเกินไปซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานของคุณโดยเครื่องฟอกอากาศนั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นขึ้นอยู่กับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์

5.การรับประกันและการบริการหลังการขาย

สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นควรที่จะมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 1-3 เดือนเพื่อช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ไม่มีการรับประกันเด็ดขาดซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา

เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี?

สำหรับการที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศจากผู้ผลิตที่เป็นแค่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างนี้ในท้องตลาดว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าไม่ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศจากผู้ผลิตที่ไม่เป็นหรือจากเด็ดขาดซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้งานโดย ยี่ห้อของเครื่องฟอกอากาศที่เราแนะนำนั้นได้แก่เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อ Sharp, เสียวหมี่, LG, Samsung และ Philips