AUX คืออะไร? Aux หรือ Auxiliary Port (AUX) เป็นพอร์ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ด้วยคลื่นสัญญาณเสียงซึ่งจะเป็นพอร์ตที่ใช้ในการรับสัญญาณเสียงแบบอนาล็อกจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง โดยจะรองรับสัญญาณเสียงแบบสเตอริโอได้พร้อมกันผ่านทางพอร์ตการเชื่อมต่อขนาด 3.5 มิลลิเมตรซึ่งเป็นแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดยส่วนมากแล้ว port aux นั้นจะถูกสร้างมาให้เป็น port ตัวเมียเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อเข้ากับหัวต่อแบบ 3.5 mm 2 หัวซึ่งเรียกว่าสาย aux ซึ่งเป็นพ่อตัวผู้ทั้งคู่โดยจะรับสัญญาณ เสียงที่เป็นอนาล็อก output ออกมาจากเครื่องเล่นต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น MP3 Smartphone เครื่องเล่น CD DVD หรือเครื่องเล่นเทปก็ตามแล้วรับสัญญาณดังกล่าวเข้ามายังภาครับและแปลงไปเป็นสัญญาณเสียงตรงเครื่องรับอีกทีหนึ่งซึ่งจะสามารถนำไปใช้งานใน Application ต่างๆได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อเสียงของชุดเครื่องเสียงระบบเครื่องเสียงรถยนต์ที่จะมีช่อง aux สำหรับรับ input จากเครื่องเล่น MP3 หรือ Smartphone รวมถึงลำโพงบลูทูธหรือลำโพงคอมพิวเตอร์ต่างๆด้วย
โดยข้อดีของสายสัญญาณแบบ aux มันก็คือความสะดวกและการรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลายประเภทที่รองรับสัญญาณเสียงแบบอนาล็อกและเป็นพอร์ตมาตรฐานในการเชื่อมต่อสำหรับอินพุตระบบสัญญาณเสียงให้กับอุปกรณ์ต่างๆที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน
สำหรับในส่วนของคุณภาพของเสียงที่ได้จากการเชื่อมต่อของ port aux นั้นมีมากมายหลายปัจจัยที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อนั้นมีคุณภาพดีโดยแหล่งที่มาของสัญญาณเสียงนั้นอันดับแรกจะต้องเป็นแหล่งที่ให้สัญญาณเสียงที่มีคุณภาพดีก่อนหลังจากนั้นว่าจะมาอยู่ในส่วนของสายนำสัญญาณหรือสาย aux ที่จะต้องสามารถที่จะทำการถ่ายทอดสัญญาณหรือนำพาสัญญาณได้โดยให้เกิดเสียงรบกวนน้อยที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ทำการส่งสัญญาณผ่านระบบ aux นั้นถูกรบกวนจนทำให้สัญญาณผิดๆนั้นได้แก่
1.สัญญาณรบกวนจากภายนอกและภายใน
ตัวสายสัญญาณนั้นถ้ามีการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อยู่รอบๆสายนั้นก็จะเกิดสัญญาณรบกวนซึ่งจะทำให้เสียงที่ได้นั้นมีคุณภาพไม่ดีเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเหนี่ยวนำจากสัญญาณแม่เหล็กของอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงนั้นก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดคลื่นรบกวนได้มากยิ่งขึ้น
2. ขนาดของสายนำสัญญาณ
สายนำสัญญาณที่มีความต้านทานภายในมากก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการนำสัญญาณได้ลงและสายที่มีขนาดเล็กมากก็จะมีความสามารถในการนำสัญญาณลดลงด้วยเช่นกันซึ่งจะไปส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเสียงได้โดยตรงนั่นเอง
3. ความยาวของสายนำสัญญาณ
สายนำสัญญาณยิ่งมีความยาวมากก็จะยิ่งมีความต้านทานมากและจะทำให้สัญญาณที่ได้นั้นมีการรบกวนมากขึ้นด้วยโดยสาย aux ที่ดีนั้นส่วนมากแล้วจะมีขนาดที่สั้นเพราะว่าจะทำให้ตัวสายและมีความต้านทานที่ต่ำและมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น
4. หัวต่อหรือ connector
หัวต่อหรือ connector นั้นจะเป็นปัญหาที่ทำให้คุณภาพเสียงของระบบการเชื่อมต่อสายสัญญาณ aux นั้นพบปัญหาได้มากที่สุดโดยบริเวณหัวต่อดังกล่าวนั้นจะเป็นส่วนที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณระหว่าง สายสัญญาณและตัวรับสัญญาณซึ่งถ้าการส่งสัญญาณบริเวณดังกล่าวนั้นไม่สามารถที่จะทำได้อย่างสะดวกก็จะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนและเกิดเสียงเพี้ยนอยู่ในระบบหรือมีเสียงช็อตระหว่างอุปกรณ์ในกรณีที่ เชื่อมต่อระหว่างหัวต่อนั้นไม่แนบสนิทพื้นแน่นเพียงพอและเป็นที่มาของเสียงแทรกในระบบการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงด้วยช่องการเชื่อมต่อแบบ aux โดยหัวต่อหรือ connector ที่ดีนั้นจะต้องเคลือบมาด้วยโลหะที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถที่จะช่วยในการนำไฟฟ้าได้อย่างไม่ทำให้เกิดปัญหาในการนำพาสัญญาณ
โดยในปัจจุบันนี้ยังมีการใช้งานก่อนการเชื่อมต่อแบบ aux อยู่เนื่องจากว่ายังเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลายชนิดถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้เราจะนิยมเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สายอยู่ก็ตามแต่ว่าพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ aux นั้นยังมีความสำคัญอยู่และมีให้ใช้งาน ร่วมกับอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลายนั่นเอง