ตู้ชาร์จแบตเตอรี่นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับแบตเตอรี่รถยนต์แบตเตอรี่ที่ใช้งานอเนกประสงค์ต่างๆซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วโดยเน้นที่แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดเป็นหลักโดยตู้ชาร์จแบตเตอรี่แบบนี้นั้นจะถูกออกแบบมาให้ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์หรือ 24 โวลต์ได้ทั้ง 2 ขนาดความจุซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ คืออะไร ตู้ชาร์จแบตเตอรี่นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด ซึ่งจะใช้ไฟฟ้ากระแสตรงในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยจะทำการเปลี่ยนสารเคมีที่อยู่ภายในตัวแบตเตอรี่นั้น ให้สามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้โดยจะมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าแบบกระแสตรงที่มีกระแสคงที่หรือกระแสแบบเป็นจังหวะในการชาร์จประจุให้กับแบตเตอรี่
โดยบทความนี้จะกล่าวถึงการชาร์จแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดที่มีความนิยมในการใช้งานแบบอเนกประสงค์ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์ทั้ง 12 โวลท์และ 24 โวลท์เป็นหลักซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์และรถจักรยานยนต์รถบรรทุกรวมถึงรถยนต์อื่นๆทุกรุ่น
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ยี่ห้อไหนดี
ในการที่จะเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่มาใช้งานนั้นเราแนะนำให้คุณเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่จากผู้ผลิตที่เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในท้องตลาดว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอในการทำงานจึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและมีความปลอดภัยรวมถึงช่วยในการถนอมแบตเตอรี่ของคุณให้สามารถทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นใหม่ควรเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่จากผู้ผลิตที่ไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในท้องตลาดเนื่องจากว่าจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้งานโดยยี่ห้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่เราแนะนำนั้นได้แก่ ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ยี่ห้อ FOXSURE, OSUKA,Total พูม่า และ SUOER
และในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ามีตู้ชาร์จแบตเตอรี่วางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นสงสัยว่าแล้วควรที่จะเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่รุ่นไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้ดีที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาตู้ชาร์จแบตเตอรี่มาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
แนะนำ ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1.MAXNUM ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ ขนาด 30AM
เป็นตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ในการชาร์จได้ทั้งแบตเตอรี่น้ำและแบตเตอรี่แห้งโดยใช้คอยล์ทองแดงแท้ในการชาร์จมาพร้อมกับแอมป์มิเตอร์ที่ใช้ในการวัดกระแสไฟฟ้าและมีระบบตัดไฟทั้งเข้าและออกหากมีการลัดวงจรมีหูหิ้วมาพร้อมทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการพกพาไปใช้ในการชาร์จได้อย่างสะดวกสบายรองรับการใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 6 โวลท์ 12 โวลท์ 18 โวลท์และ 24 โวลต์ซึ่งจะช่วยให้คุณนัทสามารถที่จะทำการเลือกชาร์จแบตเตอรี่ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานของคุณตัวเครื่องนั้นผลิตจากวัสดุและอุปกรณ์คุณภาพสูงตัวบอดี้ด้านนอกทำจากโลหะที่มีความแข็งแรงทนทานทำให้มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานเหมาะสำหรับงานหนัก

จุดเด่นของตู้ชาร์จแบตเตอรี่รุ่นนี้
1.คอยล์ทองแดงแท้
2.แอมป์มิเตอร์แสดงกระแสไฟฟ้า
3.มีหูหิ้วทำให้สามารถพกพา
4.ใช้ได้ทั้งแบตฯน้ำและแห้ง
5.มีระบบตัดไฟทั้งเข้าและออก
6.ระบบตัดไฟหักมีการลัดวงจร
#2.PUMA ตู้ชาร์จ 30 แอมป์ 24 โวล์ต ชาร์จแบตเตอรี่
เป็นตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 6 โวลท์ 12 โวลท์ และ 24 โวลต์ ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าตัวบอดี้ ผลิตจากเหล็กที่มีคุณภาพดี ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีระบบป้องกันการลัดวงจร การชาร์จกระแสเกิน การต่อสลับขั้วด้วย circuit protecctor (ตัดไฟทันทีเมื่อมีการชาร์จกระแสเกิน) ระบบเสียงร้องเตือนเมื่อต่อแบตเตอรี่สลับขั้ว ช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

คอยส์ทองแดงแท้ 100% ช่วยให้ประสิทธิภาพในการชาร์จนั้นสามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปากคีบของเครื่องชาร์จแข็งแรง ทนทาน ป้องกันไฟดูดได้ดีในระดับหนึ่ง มีหูหิ้วทำให้สามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้สะดวก เหมาะกับแบตเตอรี่ขนาดไม่เกิน 70ah เหมาะกับการนำไปใช้ชาร์จหรือกระตุ้นไฟแบตเตอรี่รถยนต์ภายในบ้าน เมื่อไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน
สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 6v , 12v ได้ทีละ 2 ลูก ด้วยการต่อชุดปากคีบ / สายพ่วงแบตเตอรี่ อีก 1 คู่
สามารถปรับความเร็วในการชาร์จได้ 7 ระดับ แรงดันไฟเข้า 220v – 240v / 50 – 60 Hz
จุดเด่นของตู้ชาร์จแบตเตอรี่รุ่นนี้
1.ระบบป้องกันการลัดวงจร การชาร์จกระแสเกิน การต่อสลับขั้วด้วย circuit protecctor (ตัดไฟทันทีเมื่อมีการชาร์จกระแสเกิน)
2.ระบบเสียงร้องเตือนเมื่อต่อแบตเตอรี่สลับขั้ว
3.คอยส์ทองแดงแท้ 100%
4.ปากคีบของเครื่องชาร์จแข็งแรง ทนทาน ป้องกันไฟดูดได้ดีในระดับหนึ่ง
5.มีหูหิ้วทำให้สามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้สะดวก
#3.PUMA ตู้ชาร์จ 20 แอมป์ 60 โวล์ต ชาร์จแบตเตอรี่ รุ่น L601020
เป็นตู้ชาร์จแบตเตอรี่แบบตั้งพื้นสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 6 12 24 36 และ 48 โวลต์ ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างหลากหลายความจุรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ทั้งแบตเตอรี่น้ำแบตเตอรี่แห้งทีละหลายรูปพร้อมกัน กระแสจ่ายไฟขณะชาร์จ 20A (สำหรับแบตเตอรี่ไม่ควรเกิน 150ah)

ใช้คอยส์ทองแดงแท้ 100% ตัวเครื่องนั้นมีแอมป์มิเตอร์ดูกระแสไฟฟ้าขณะชาร์จแบตเตอรี่
และให้สายชาร์จยาว 1.5 เมตร และสายปลั๊กไฟเข้า AC ยาว 1.5 เมตร สามารถเปลี่ยนฟิวส์ได้เมื่อกระแสไฟรั่ว มีขาตั้งพื้นให้สามารถวางตั้งได้ทุกสถานที่ ช่วยให้คุณนั้นสะดวกในการติดตั้งและใช้งาน ปากคีบของเครื่องชาร์จแข็งแรง ทนทาน ป้องกันไฟดูดได้ดีในระดับหนึ่ง ช่วยให้มีความปลอดภัยสูง
คุณสมบัติที่ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 12v ได้ ครั้งเดียว 5 ลูก สามารถปรับความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ได้ 7 stepมี output circuit protector สำหรับป้องกันการชาร์จสลับขั้ว / เร่งกระแสชาร์จไฟเกิน / กิ๊บคีบแบตเตอรี่ชนกัน เหมาะกับการใช้งานในโรงงาน ร้านรับจ้างชาร์จ อู่ซ่อมรถ หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์
จุดเด่นของตู้ชาร์จแบตเตอรี่รุ่นนี้
1.คอยส์ทองแดงแท้ 100%
2.มีแอมป์มิเตอร์ดูกระแสไฟฟ้าขณะชาร์จแบตเตอรี่
3.สายชาร์จยาว 1.5 เมตร และสายปลั๊กไฟเข้า AC ยาว 1.5 เมตร
4.สามารถเปลี่ยนฟิวส์ได้เมื่อกระแสไฟรั่ว
- มีขาตั้งพื้นให้สามารถวางตั้งได้ทุกสถานที่
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่มาใช้งาน
1.โวลต์ของตู้ชาร์จ
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อขนาดของ V ที่มีความเหมาะสมกับแบตเตอรี่ที่คุณจะนำมาใช้ในการชาร์จโดยทั่วไปแล้วสำหรับรถยนต์ทั่วไปนั้นจะใช้แบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์และสำหรับรถบรรทุกจะใช้แบตเตอรี่ขนาด 24 โวลต์ซึ่งตัวเครื่องชาร์จนั้นโดยส่วนมากแล้วจะรองรับกระแสชาร์จอยู่ที่ทั้ง 12 และ 24 โวลต์ในขณะที่ตู้ชาร์จแบตเตอรี่แบบพิเศษนั้นจะรองรับกระแสไฟตั้งแต่ 6 จนถึง 48 โวลต์ให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
2.แอมป์ของตู้ชาร์จ
จำนวนแอมป์ของตู้ชาร์จนั้นมีความสำคัญเช่นเดียวกันโดยแอมป์ของตู้ชาร์จหมายถึงจำนวนของกระแสชาร์จที่ตัวตู้ชาร์จนั้นสามารถที่จะทำการรองรับได้ซึ่งในการชาร์จนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการปรับกำลังแอมป์ให้มีความเหมาะสมสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แต่ละขนาดความจุที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยการใช้งานแอมมากหรือน้อยเกินไปนั้นอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับแบตเตอรี่บางรุ่นบางประเภท
3.ระบบการชาร์จ
ระบบการชาร์จแบตเตอรี่ของตู้ชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะมีทั้งแบบที่เป็นแบบอัตโนมัติและเป็นแบบปรับเองซึ่งทั้ง 2 แบบนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกันไปโดยระบบอัตโนมัตินั้นตัวเครื่องจะทำการปรับระดับของกำลังให้มีความเหมาะสมเองโดยอัตโนมัติในขณะที่ระบบแบบปรับเองนั้นคุณสามารถที่จะทำการปรับระดับหรือปรับตั้งค่าต่างๆได้อย่างเหมาะสมกับชนิดและประเภทรวมถึงความจุของแบตเตอรี่ที่คุณจะนำมาชาร์จซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการเลือกให้เหมาะสมได้มากที่สุด
-
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของตู้ชาร์จแบตเตอรี่นั้นก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกันสำหรับการใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชาร์จสลับขั้วซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างถูกขั้วในกรณีที่สลับขั้วชาร์จแบตเตอรี่อาจจะทำให้แบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพหรือเสียหายได้หรือทำให้แบตเตอรี่นั้นกลับขั้วซึ่งเมื่อนำไปใช้งานอาจจะทำให้รถยนต์เกิดปัญหาในการใช้งานนั่นเอง และระบบอื่นๆไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรไฟกระชากหรือไฟฟ้าเกินก็จำเป็นจะต้องมีในตู้ชาร์จแบตเตอรี่เช่นเดียวกัน
5.ความแข็งแรงทนทาน
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทานมีการใช้งานวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุในการใช้งานที่ยาวนานดูแผงวงจรที่ใช้ในการใช้ต่างๆตัวบอดี้ของตัวเครื่องจะต้องทำหรือมีการใช้งานวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงอย่างเช่นโลหะซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน
6.มีระดับราคาที่เหมาะสม
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระดับราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของตัวเครื่องวัสดุที่นำมาใช้ทำและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องโดยให้เน้นที่ความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นหลักไม่ควรเลือกซื้อตู้ชาร์จแบตเตอรี่ที่มีราคาถูกมากจนเกินไปเนื่องจากว่าอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้งาน
7.การรับประกันและการบริการหลังการขาย
ตู้ชาร์จแบตเตอรี่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 1-3 เดือนเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องในกรณีที่เกิดปัญหาขณะที่ใช้งานซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการทำงานของอุปกรณ์นั้นสามารถที่จะทำการเรียกร้องขอความรับผิดชอบจากผู้ขายหรือผู้ผลิตให้ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนให้ตัวเครื่องนั้นสามารถที่จะทำการนำกลับมาใช้งานใหม่ได้