เครื่องซักผ้าซักผ้าห่มได้ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการซักผ้าห่มภายในบ้านของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทำให้คุณทำความสะอาดผ้าห่มของคุณเพื่อช่วยลดคราบสกปรกปัญหาฝุ่นและไร้ฝุ่นซึ่งอาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้ตามมาในภายหลังได้และการทำความสะอาดผ้าห่มนั้นควรที่จะมีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำอย่างน้อย 1 เดือนต่อครั้งเพื่อช่วยให้คุณนั้นลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ
เครื่องซักผ้าซักผ้าห่มได้ นั้นจะมีขนาดความจุ ที่มากกว่าเครื่องซักผ้าทั่วๆไปเนื่องจากว่าผ้าห่มที่เราใช้นั้นอาจจะมีขนาดที่ใหญ่และมีเนื้อผ้าเยอะซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานในเครื่องซักผ้าขนาดความจุเล็กได้นั่นเองเพราะฉะนั้นแล้วการที่จะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่สามารถซักผ้าห่มได้นั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าห่มที่มีขนาดความจุ มากพอและเหมาะสมกับความต้องการในการใช้ในการซักผ้าห่มของคุณโดยขนาดความจุของเครื่องซักผ้าที่ใช้ในการซักผ้าห่มนั้นจะต้องมีขนาดความจุที่มากกว่า 10 กิโลกรัมขึ้นไปจึงจะสามารถที่จะช่วยให้คุณทำการซักผ้าห่มได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
และส่วนมากและเครื่องซักผ้าที่รองรับการซักผ้าห่มได้นั้นจะเป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาบ่นเนื่องจากว่ามีความจุที่มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าจึงทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการซักผ้าห่มนวมหรือผ้าห่มที่มีขนาดใหญ่ฉันต้องการเครื่องซักผ้าที่มีความจุสูงในการใช้งานในการทำความสะอาดนั่นเอง
เราควรซักผ้าห่มบ่อยแค่ไหน?
เราควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดไรฝุ่นต่างๆ ออกไปจากเตียง และที่นอน เมื่อซักเสร็จแล้ว ตากแดดให้แห้ง รวมไปถึงหมอนนุ่มๆ หรือตุ๊กตาที่อยู่บนเตียง ก็ควรซัก หรือนำมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไรฝุ่นทุกๆ 3 เดือนอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าเครื่องซักผ้าความจุสูงที่สามารถซักผ้าห่มได้นะจึงเป็นอุปกรณ์ที่คุณควรที่จะพิจารณาก่อนที่จะทำการเลือกมาใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานในการทำความสะอาดภายในบ้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบาย
โดยในปัจจุบันนี้จะเห็นว่ามีเครื่องซักผ้าความจุสูงที่เหมาะสำหรับการซักผ้าห่มวางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คุณนะสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าห่มรุ่นไหนแบบไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาเครื่องซักผ้าห่ม มาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งาน เพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องซักผ้าห่มที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
แนะนำ เครื่องซักผ้าห่ม รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1. เครื่องซักผ้าห่ม Hitachi ขนาด 10 กก. รุ่น PS-100LJ
เครื่องซักผ้า 2 ถัง 10 กก. Hitachi รุ่น PS-100LJBคุณสมบัติผลิตภัณฑ์แอร์ เจ็ต ดราย (Air Jet Dry) พร้อมฟิลเตอร์นาโน ไททาเนียม ผ้าแห้งไว ไร้กลิ่นอับพลังปั่นแรงสูงสุดถึง 1,450 รอบต่อนาที แห้งเร็วทันใจยิ่งขึ้นระบบแช่สลับซัก ปรับได้ 2 เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ตัวเครื่องมีความจุที่สูงจึงเหมาะสำหรับใช้ในการซักผ้าห่มได้ดีและเหมาะสำหรับการใช้ในการทำความสะอาดเสื้อผ้ารวมถึงสิ่งของอื่นๆภายในบ้านได้ด้วย
#2. เครื่องซักผ้าห่ม Samsung รุ่น WT16J8LEC/XST
Samsung ซัมซุง เครื่องซักผ้า 2 ถัง รุ่น WT16J8LEC/XST พร้อมด้วย Air Turbo ขนาด 14 กก. เป็นอกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถจุได้มากถึง 14 กิโลกรัม ไม่ต้องห่วงเรื่องผ้ากองโต พร้อมมอบอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นด้วยโหมดถนอมผ้าอย่างอ่อนโยน ออกแบบมาในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยในดีไซน์โมเดิร์น และฟังค์ชันการใช้งานที่ครบครัน ใช้งานง่าย เช่น 3 โปรแกรมซักอัตโนมัติ (Soft, Normal, Heavy) เป็นต้น.
ถังซักขนาด 14 กิโลกรัม รองรับผ้านวมหรือผ้าปูที่นอนได้ ตัวถังเรซินคุณภาพสูง ทนทาน ป้องกันสนิม จานซัก ECO Storm พลังน้ำสามทิศทาง ซักสะอาดหมดจด ผ้าไม่พันกัน มีระบบ Shower Spinning ฉีดกระจายน้ำอย่างทั่วถังซักเพื่อความสะอาด และ ระบบ Air Turbo Drying System เพิ่มประสิทธิภาพของถังปั่นหมาดระบบซัก 3 โปรแกรมสำหรับผ้าบาง ผ้าปกติ และผ้าหนาเป็นพิเศษ มีถุงกรองสิ่งสกปรกขณะซักออกอย่างมีประสิทธิภาพ.
#3. เครื่องซักผ้าห่ม LG รุ่น TT16WAPG
ครื่องซักผ้าฝาบนแบบ 2 ถัง ความจุ 16กิโลกรัม ที่เหมาะสำหรับใช้ในการซักผ้าห่มหรือผ้าที่มีขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ จานซักแบบ Roller Jetจะทำการถูผ้าพร้อมกับการหมุนช่วยขจัดคราบสกปรกได้อย่างดี มีโปรแกรมซัก 3 รูปแบบ (Gentle, Normal, Strong) Wind Jet Dry เทคโนโลยีช่วยลดความชื้นออกจากเสื้อผ้าในการปั่นแห้ง Rat Away Technology เคลือบสารป้องกันหนูที่ตัวเครื่อง ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ผลิตจากพลาสติกพิเศษมีความหนาถึง 3 มม. ขนาดตัวเครื่อง (กxสxล)964 x1,043 x540 มม. รับประกันมอเตอร์ 5 ปี ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น
วิธีการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าให้สะอาดหมดจด
ผ้าห่มส่วนใหญ่จะรองรับการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าได้ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ทำการซักผ้าห่มได้อย่างสะดวกรวดเร็วและประหยัดแรงทำให้คุณมีความสะดวกสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่จะทำการเริ่มซักผ้าห่มนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาว่าเครื่องซักผ้านั้นสามารถที่จะทำทำการซักผ้าห่มของคุณได้หรือไม่ถ้าผมบอกคุณนั้นมีขนาดที่ใหญ่จนเกินไปนั้นอาจจะทำให้การซักไม่สามารถที่จะทำการสร้างได้อย่างเต็มประสิทธิภาพซึ่งผลที่ตามมานั่นก็คือการที่ผ้าห่มนั้นไม่สะอาด และอาจแถมมาด้วยคราบของผงซักฟอกซึ่งอาจจะทำให้ผ้าห่มของคุณนั้นเกิดความเสียหายได้นั่นเองดังนั้นแล้วความจุของเครื่องซักผ้าจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากอย่างยิ่งสำหรับการที่จะใช้ในการซักผ้าห่ม
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการซักผ้าห่ม
1.น้ำยาซักผ้า ในการที่จะซักผ้าห่มนั้นควรจะใช้น้ำยาซักผ้าห่มที่มีความอ่อนโยนไม่มีสารฟอกขาวหรือไม่มีสีสังเคราะห์ที่จะทำให้เนื้อผ้าของข้อมูลนั้นเสียหายได้นั่นเอง
2.น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยให้ผ้าห่มของคุณนั้นมีความนุ่มและหอมขจัดกลิ่นอับได้ดีมากยิ่งขึ้น
3.เครื่องซักผ้าห่ม เครื่องซักผ้าห่มนั้นจะเป็นเครื่องซักผ้าที่มีความจุสูงที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้ในการซักผ้าห่มของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยอาจจะเป็นเครื่องซักผ้าที่มีความสุขมากกว่า 10 กิโลกรัมเป็นแบบฝาบนหรือฝาหน้าก็ได้
ขั้นตอนการซักผ้าห่ม
1.เติมน้ำยาซักผ้าลงในเครื่องในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดของผ้าห่มโดยอ่านคำแนะนำจากคู่มือผู้ใช้งานของน้ำยาซักผ้าแต่ละยี่ห้อ
2.นำผ้าห่มที่คุณจะซักลงไปในเครื่องซักผ้า โดยจะต้องมีขนาดที่พอดีไม่ใหญ่จนล้นเครื่องซักผ้าซึ่งอาจจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะนำการใช้งานได้
3.เลือกโปรแกรมในการซัก ทำการเลือกโปรแกรมในการซักค่าฝุ่นที่เหมาะสมที่สุดนั่นก็คือเลือกโปรแกรมที่เบาที่สุดซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการซักผ้าห่มโดยถนอมเนื้อผ้ามากที่สุด
4.เมื่อซักเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทำการเทน้ำยาปรับผ้านุ่มไปในขณะที่ทำการล้างน้ำสุดท้ายตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้เข้าถึงของคุณนั้นนุ่มและหอม
5.ให้นำผ้าห่มที่ซักเสร็จเรียบร้อยแล้วไปตากกลางแจ้งที่มีลมโกรกหรือกลางแดดหรือถ้าคุณกลัวคำพูดของคนจะสีซีดหรือสีตกนั้นควรที่จะตากในร่มที่มีอากาศถ่ายเทจะดีกว่าแต่การตากแดดนั้นจะสามารถที่จะช่วยกำจัดแบคทีเรียและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่ติดอยู่ในผ้าห่มได้ดีกว่า