การทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนไว้บนรถกลางแดดนั้นเป็นอันตรายหรือไม่ อาจจะเป็นคำถามที่ผู้ใช้งานทั่วไปเริ่มสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวนั้นจะทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ในอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นมือถือ Smart Phone Notebook เครื่องเล่น MP3 กล้องดิจิตอลและอุปกรณ์อื่นๆที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนเป็นแหล่งพลังงานเราสามารถที่จะทิ้งพวกมันไว้ในรถที่จอดตากแดดแล้วจะมีความปลอดภัยในการใช้งานหรือไม่นั้น

คำตอบคือเราไม่ควรทิ้งอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนไว้ภายในรถหรือในพื้นที่ที่ร้อนที่มีอุณหภูมิเกิน 45 ถึง 60 องศาเด็ดขาดเนื่องจากว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นคืออุณหภูมิตั้งแต่ 0 องศาจนถึง 40 องศาถ้าอุณหภูมิเกินกว่า 45 องศานั้นจะทำให้ตัวแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมที่จะทำงานและจะทำให้ตัวแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพหรือมีอายุการใช้งานที่สั้นลงกว่าเดิมอย่างรวดเร็วมากกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งโดยปกติแล้วแบตเตอรี่แบตลิเธียมไอออนนั้นเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งจะเริ่มมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ลดลงเป็นปกติอยู่แล้วแต่ถ้าอยู่ในสภาพภูมิอากาศที่ร้อนเกิน 45 องศานั้นยิ่งจะเป็นตัวเร่งทำให้คุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเซลล์ของแบตเตอรี่แบตลิเธียมไอออนนั้นลดลงเร็วขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือถือหรือสมาร์ทโฟนที่ถูกวางไว้ตากแดดโดยตรงหรืออยู่ในรถที่มีอุณหภูมิร้อนกลางแดดนั้นซึ่งอุณหภูมิอาจจะสามารถที่จะพุ่งขึ้นไปได้สูงถึง 80 องศาเซลเซียสเลยทีเดียวเนื่องจากว่ามีการทดลองนำเอาใครเข้าไปอบรมภายในรถที่จอดตากแดดนั้นก็ทำให้ไข่ดิบกลายเป็นไข่สุกได้และได้มีการวัดอุณหภูมิของ อากาศภายในรถยนต์ที่จอดตากแดดในประเทศไทยนั้นสามารถที่จะทำอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 70 ถึง 80 องศาเซลเซียสเลยทีเดียวและนั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างจากนั้นเกิดอาการเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่สั้นลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง
ถึงแม้ว่าตัวอุปกรณ์นั้นจะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยตัวเคสและตัวบอดี้ของอุปกรณ์อยู่ก็ตามแต่ว่าอุณหภูมิโดยรวมรอบๆของอุปกรณ์นั้นก็จะทำให้ตัวแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในนั้นมีความร้อนที่สูงขึ้นมากด้วยเช่นกันและนอกจากการที่ทิ้งอุปกรณ์ไว้ในรถที่จอดตากแดดนั้นจะเป็นการทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นการใช้งานอุปกรณ์ขณะที่มีความร้อนสูงอย่างเช่นการเล่นเกมหนักๆแล้วตัวอุปกรณ์นั้นเกิดความร้อนสะสมเกินกว่า 45 องศาเซลเซียสนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวอุปกรณ์มือถือสมาร์ทโฟนต่างๆนั้นมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ลดลงและทำให้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์นั้นเสื่อมสภาพในการใช้งานลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
และนอกจากนั้นแล้วเรายังได้ยินข่าวเรื่อยๆเกี่ยวกับการทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆไว้บนรถแล้วเกิดอาการระเบิดจนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บนรถยนต์นั้นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่คำตอบก็คือเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้จริงในกรณีที่คุณวางตัวอุปกรณ์ไว้บนคอนโซลรถที่โดนแดดโดยตรงซึ่งอุณหภูมิของอุปกรณ์ที่โดนแดดโดยตรงนั้นจะมีการเพิ่มอุณหภูมิไปมากขึ้นกว่าพี่ถูกวางไว้ในรถยนต์ซึ่งอาจจะทำให้ตัวอุปกรณ์นั้นมีอุณหภูมิที่ร้อนได้สูงถึง 80 องศาเซลเซียสและสำหรับอุปกรณ์ที่มีการป้องกันตัว Body และมีการใช้ตัวบอดี้ที่ทำจากโลหะนั้นจะเป็นวัสดุที่มีการถ่ายเทความร้อนไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ภายในได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นจึงอาจเป็นสาเหตุทำให้ตัวแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นเกิดการระเบิดได้เนื่องจากว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นมีความเปราะบางหรือ sensitive กับอุณหภูมิซึ่งอาจจะทำให้ตัวแบตเตอรี่นั้นเกิดอาการบวมขึ้นมาและเผาไหม้จนเกิดระเบิดเป็นประกายไฟได้นั่นเองดังนั้นในการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้นั้นเราจึงไม่สมควรที่จะปล่อยหรือทิ้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ภายในรถยนต์ในช่วงที่มีอากาศร้อนหรือจอดรถยนต์กลางแดดเด็ดขาดในการจอดรถยนต์นั้นเราควรที่จะจอดในพื้นที่ที่มีร่มเงาพอสมควรซึ่งจะช่วยในการลดอุณหภูมิภายในรถยนต์ได้ในระดับที่ปลอดภัย
สรุปก็คือในการที่จะใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบนั้นควรที่จะใช้งานและจัดเก็บในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียสเพื่อป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่นั้นไม่สามารถที่จะเก็บไว้ได้นานและมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่แย่ลงกว่าเดิมอย่างรวดเร็วมากกว่าค่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นในการใช้งานสภาวะปกตินั่นเองแน่นอกจากอุณหภูมิที่สูงจนเกินไปแล้วภูมิที่ต่ำจนเกินไปซึ่งมีอุณหภูมิที่ติดลบหรือน้อยกว่า 0 องศาเซลเซียสนั้นก็มีผลกับการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกันดังนั้นผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องทราบถึงข้อจำกัดในข้อนี้ด้วยเช่นกัน