จอ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) คืออะไร? จอแสดงผลแบบ LTPO คือหน้าจอ AMOLED ที่มีองค์ประกอบบางส่วนเป็น Low-Temperature Polycrystalline Oxide จึงทำให้มีคุณสมบัติพิเศษต่างจากจอ AMOLED ทั่วๆไป ตรงที่สามารถแสดงภาพค้างไว้ตลอดเฟรมได้ ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้หน้าจอแบบ LTPO นั้นจะสามารถปรับเพิ่มหรือลดอัตรารีเฟรช Refresh Rate ของหน้าจอให้สูงหรือต่ำลง เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานได้

โดยหน้าจอแบบ LTPO นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบสำหรับหน้าจอ LED ที่มีการพัฒนาโดยบริษัท Apple โดยได้มีการใช้งานครั้งแรกใน Apple Watch Series 4 ซึ่งทำให้หัวหน้าจอสามารถที่จะแสดงผลตลอดเวลาได้ดูที่มีอัตราการบริโภคกระแสไฟฟ้าที่ค่อนข้างต่ำและช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้สูงขึ้น
แล้วหน้าจอแบบ LTPO นั้นมีข้อดีอะไร ?
ข้อดีหลักๆของหน้าจอแบบ LTPO นั่นก็คือ การบริโภคพลังงานที่ต่ำโดยในขณะที่คุณไม่ได้ใช้งานนั้นตัวหน้าจอจะมีการแสดงผลต่างๆที่ค่อนข้างน้อยซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนค่าต่างๆทุกนาทีแต่เมื่อเปรียบเทียบกันกับหน้าจอธรรมดาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหน้าจอทุกวินาทีจึงทำให้อัตราการบริโภคพลังงานนั้นสูงกว่าซึ่งหน้าจอประเภทนี้นั้นจะเหมาะสำหรับที่จะใช้ในอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการหน้าจอที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆหรือสามารถที่จะทำการปรับหน้าจอให้ค้างไว้ได้เพื่อช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่นั้นมีอายุการใช้งานต่อการชาร์จที่สูงขึ้นนั่นเองและเป็นที่ทราบกันดีว่าส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นส่วนที่บริโภคพลังงานมากส่วนหนึ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆดังนั้นถ้ามีการนำเอาหน้าจอแบบ LTPO มาใช้งานจะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานต่อการชาร์จเพิ่มมากยิ่งขึ้นหรือจะสามารถที่จะลดความจุของแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ลงเพื่อลดต้นทุนและลดขนาดของอุปกรณ์นั่นเอง
โดยหน้าจอแบบ LTPO ได้มีการใช้งานครั้งแรกบนอุปกรณ์ smart watch Apple Watch Series 4 ซึ่งมีการนำหน้าจอดังกล่าวไปใช้งานแล้วจึงทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใดแต่เหตุใดหน้าจอประเภท LTPO จึงได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
เนื่องจากว่ามีการคาดการณ์ว่าจะมีการเอาหน้าจอ LTPO ไปใช้บนอุปกรณ์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ Apple iPhone 13 โดยคาดว่าจะมีการใช้หน้าจอ LTPO ทดแทนหน้าจอแบบเดิมที่มีการใช้งานใน iPhone 12 ซึ่งเหตุผลที่มีการใช้งานดังกล่าวนั้นก็น่าจะเกิดจากข้อดีต่างๆของหน้าจอประเภทนี้ที่จะทำให้ตัวอุปกรณ์อย่าง iPhone 13 นั้นมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่สูงขึ้นและมีอัตราการบริโภคพลังงานของแบตเตอรี่ที่น้อยลงซึ่งอาจจะทำให้ทาง Apple สามารถ ที่จะทำการลดความจุของแบตเตอรี่หรือใช้แบตเตอรี่ความจุเดิมแต่จะให้อายุการใช้งานต่อการชาร์จที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยแบตเตอรี่นั้นจะมีส่วนสำคัญมากต่อการใช้งานมือถือและสมาร์ทโฟนซึ่งจะช่วยในการลดต้นทุนในด้านแบตเตอรี่ลงได้ด้วยนั่นเอง
โดยมีการคาดการณ์ว่า iPhone 13 นั้นจะมีอัตราการบริโภคพลังงานที่ต่ำกว่า iPhone 12 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์นั่นจึงทำให้แบตเตอรี่ของ iPhone 13 จะมีอายุการใช้งานที่มากกว่าต่อการชาร์จ 1 ครั้งของ iPhone 12 ที่ความจุของแบตเตอรี่เดียวกัน
ซึ่งถ้า Apple iPhone 13 นั้นมีการใช้งานหน้าจอ LTPO จริงก็จะช่วยให้ผู้บริโภคอย่างเราๆนั้นสามารถที่จะใช้งานอุปกรณ์มือถือที่มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นและมีหน้าจอที่มีการแสดงผลที่สามารถปรับ Refresh Rate ได้สามารถที่จะค้างค่าการแสดงผลบนหน้าจอเหมือนกับการใช้งาน Apple Smart Watch Series 4 และอาจจะมีฟีเจอร์อื่นตามมาซึ่งจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะใช้งานอุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองถึงแม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นอาจจะไม่เป็นนวัตกรรมที่ใหม่แต่อย่างใดแต่มีการนำเอามาใช้งานจริงก็จะช่วยให้เราสามารถที่จะใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
คุณผู้อ่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับหน้าจอแบบ LTPO อย่างไรถ้ามีการนำมาใช้จริงสำหรับอุปกรณ์อื่นๆนั้นคุณยังจะมีการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีการใช้หน้าจอแบบ LTPO อยู่หรือไม่?
Sources : https://en.wikipedia.org/wiki/Low-temperature_polycrystalline_silicon