Metaverse คืออะไร? Metaverse อ่านว่า เมต-ตา-เวิร์ส คำว่า metaverse นั้นหมายถึงอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตที่จะมีการใช้งาน พื้นที่เสมือน 3 มิติเหมือนกับอยู่ในอีกจักรวาลหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกดิจิทัล ที่ผู้คนสามารถโต้ตอบและใช้พื้นที่เสมือนจริงร่วมกันได้ โดยการใช้งานเทคโนโลยี VR หรือ Visual Reality และ AR หรือ augmented reality ให้สามารถทำงานร่วมกันได้

คำว่า เมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นคำที่กว้าง สามารถที่จะแปลความหมายต่างๆได้อย่างหลากหลาย แต่โดยทั่วไปหมายถึงการแบ่งปันสภาพแวดล้อมของโลกเสมือนจริงของผู้คนผ่านทางอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังหมายถึงพื้นที่ดิจิทัล ซึ่งถูกสร้างให้เหมือนจริงมากยิ่งขึ้น โดยการใช้ความเป็นจริงเสมือน (VR) หรือเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (AR) ซึ่งเป็นเทรนหรือแนวโน้มของโลกอินเทอร์เน็ตในอนาคตที่ได้มีการผลักดันให้ไปในทิศทางนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
โดยผู้ที่กำลังต้องการผลักดันโลกของ Metaverse ให้สามารถที่จะทำการใช้งานได้จริงนั่นก็คือบริษัท Facebook ผู้ให้บริการเว็บสังคมออนไลน์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาที่ไหนตอนนี้ได้เริ่มมีการจัดตั้งบริษัทและเปลี่ยนชื่อบริษัทให้มีความสอดคล้องกับเทรนหรือเทคโนโลยี ดังกล่าวที่กำลังจะเริ่มได้รับความนิยมในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคตโดยได้มีการวางแผนที่จะทำการ นำเอามาใช้จริงในโลกปัจจุบันภายใน 4-5 ปีนี้
และนอกจากบริษัทของ Facebook แล้วยังมีบริษัทอื่นๆที่กำลังสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนต่างๆที่ต้องการที่จะจับกระแสและเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ไม่ว่าจะเป็น Facebook Microsoft หรือบริษัท Tech Company ที่อยู่ในซิลิคอนวัลเลย์เองก็ตามต่างก็ให้ความสนใจที่จะทำการนำเอามาใช้งานหรือ infant ในส่วนของ Metaverse ให้กับสินค้าและบริการของตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่นในด้านความบันเทิงและเกมนั้น ตอนนี้ศิลปินสามารถที่จะทำการจัดคอนเสิร์ตบนโลกเสมือนจริงภายในแพลตฟอร์มต่างๆได้แล้วยกตัวอย่างเช่นการจัดคอนเสิร์ตภายในโลกเสมือนจริงของเกมอย่างเช่นเกมฟอร์ดไนท์ที่ศิลปินนั้นสามารถที่จะทำการเข้าไปแสดงคอนเสิร์ตภายในเกม ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเกมนั้นสามารถที่จะเข้าร่วมคอนเสิร์ตได้ผ่านโลกเสมือนจริงภายในเกมซึ่งจะทำให้การใช้งานนั้นสามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมต่างๆได้ บนโลกเสมือนจริง โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเดินทาง ไปชมคอนเสิร์ตด้วยตัวเอง
ซึ่งในการใช้งาน Metaverse ต่างๆนั้นจะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆที่หลากหลายเอามารวมเข้าด้วยกันแล้วทำการใช้งานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับ AR, VR เกม, ระบบ AI หรือ Artificial Intelligence, เทคโนโลยี Computer Vision, Edge and Cloud computing, และระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็น 5g หรือ 6g เนื่องจากว่าเทคโนโลยี metaverse นั้นจะใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและมีการใช้งาน bandwidth ในการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
โดยการใช้งานและเข้าถึงโลก Metaverse นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษจึงจะสามารถที่จะทำการเข้าถึงและใช้งานโลกเสมือนจริงแบบ 3 มิติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์จำพวกแว่น VR ซึ่งในปัจจุบันนี้เริ่มมีให้เห็นและเริ่มมีให้ใช้งานหลายรุ่นหลายยี่ห้อแต่ยังเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพงอยู่ซึ่งในช่วงเปิดตัวก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วจึงอาจจะทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นยังอยู่ในขั้นทดลองอยู่แต่ในระยะเวลาจากนี้ 3-5 ปีและในอนาคต เทคโนโลยีดังกล่าวจะเริ่มเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นมีความแพร่หลายในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
และเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนั้นมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดซึ่งมีความล้ำหน้าและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 1 ถึง 2 ปีนั้นเราก็จะสามารถเห็นความแตกต่างของเทคโนโลยีและในการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆที่มีการพัฒนาเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
และในโลกของ AR VR หรือ metaverse นั้นจะมีตำแหน่งงานต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมถึงมีอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมาเพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของการออกแบบและการผลิต Content แบบ 3 มิติซึ่งสามารถที่จะนำเอาไปใช้งานบนโลกเสมือนจริงแบบ VR หรือ AR ได้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับเทคโนโลยี metaverse.
และโลก Metaverse ที่จะมาในอนาคตนั้นก็อาจจะมีข้อเสียเช่นเดียวกันซึ่งโดยความคิดเห็นส่วนตัวนะน่าจะเป็นการทำให้เราอาจจะมีการใช้งานโลกเสมือนจริงเพิ่มมากยิ่งขึ้นและมีการใช้งานโลกความจริงน้อยลงซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสับสนระหว่างการใช้งานโลกเสมือนจริงและโลกแห่งความจริงได้ยกตัวอย่างง่ายๆนั่นก็คือการใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้เป็นระบบหน้าจอแบบสัมผัสซึ่งในการกลับไปใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ปกตินั้นในบางครั้งเราอาจจะเผลอลืมตัวไปสัมผัสที่หน้าจอเพื่อทำการสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่รองรับหน้าจอแบบสัมผัสซึ่งจะทำให้เกิดความสับสนในการทำงานบ้างในบางครั้งนั้นเอง